คำไว้อาลัย

จะมีสักกี่ครั้งในชีวิต ที่เราจะสามารถจําบทสนทนากับใครคนหนึ่งได้ขึ้นใจ

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน....

พ.ศ. 2533 เสียงโทรศัพท์ดังที่บ้านตอน 9 โมง เสียงจาก อาจารย์เทอด ที่พี่ๆ และเพื่อนในรุ่นมักจะแซวเสมอว่า เราหน้าตาท่าทางคล้ายๆ กัน เหมือนเป็นพ่อลูกกัน ดังมาจากปลายสาย “ซันนี่ ทําไมคุณไม่มาสอบ วันนี้ ปีหก มีสอบ final วิชา...นะ” ในสมัยที่มีแต่เบอร์โทรที่บ้าน อาจารย์ อุตส่าห์ไปตามหาเบอร์โทรมาจนได้แล้วโทรมาสอบถาม ตอนนั้นรู้สึกเหมือนโลกจะถล่ม เค้าเลื่อนสอบจากบ่ายเป็นเช้า แต่ทําไมเราไม่ทราบอยู่คนเดียวก็ไม่แน่ใจ อาจารย์ก็ตอบมาว่า “คุณรีบมานะ อาจารย์จะรอ” รู้สึกเหมือนได้อากาศหายใจต่อ ดีว่าบ้านใกล้ ไปเข้าห้องสอบทันภายในหนึ่งชั่วโมง ...อย่างน้อยก็ได้สอบนะ ไม่ติด F ไม่มีผลต่อการได้เกียรตินิยมและสมัครรับทุนในอนาคต ที่ใครจะไปรู้ว่านั่นคือจุดเริ่มของหน้าที่การงานทั้งหมดในปัจจุบัน

หลังจากเรียนจบสัตวแพทย์ ได้งานเป็นสัตวแพทย์ประจําโรงพยาบาลสัตว์เล็ก มีโอกาสรับใช้ เรียนรู้งานจากอาจารย์เป็นช่วงสั้นๆ ก่อนที่อาจารย์จะย้ายไปทํางานที่เชียงใหม่ จากนั้นแม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้พบอาจารย์บ่อยนัก แต่ทุกครั้งที่พบกันอาจารย์ก็ยังจําลูกสาวคนนี้ได้เสมอ อาจารย์ยังคงให้ความเมตตา ให้ข้อคิดและกําลังใจในการทํางาน คอยเตือนสติให้มองไปข้างหน้า ให้นึกถึงภาระหน้าที่เพื่อส่วนรวม เมื่อสองปีก่อนอาจารย์ได้กรุณาช่วยเขียนจดหมายรับรองให้สมัครเรียนทุน DAAD ซึ่งก็ไปเรียนกลับมาแล้ว ได้รายงานให้ อาจารย์ทราบถึงความก้าวหน้า และความประทับในเรื่องต่างๆ ที่ได้ไปเรียนรู้มา จากนั้นก็เลยได้มีโอกาสคุยกันผ่านทางโทรศัพท์และได้มีโอกาสรับใช้อาจารย์บ้างตามกําลังความสามารถ สิ่งที่รับรู้ได้ตลอดมา คือ อาจารย์ยังคงคิดถึงและหวังดีกับพวกเราและคณะฯ อย่างเสมอมา

พ.ศ. 2563 ปลายเดือนกุมภาพันธ์เสียงที่คุ้นหูลอยมาทางโทรศัพท์คุยธุระพร้อมสอบถามสารทุกข์สุกดิบ เหมือนกับทุกครั้งที่คุยกัน ครั้งนี้อาจารย์ยังคงตั้งคําถาม ในเรื่องหน้าที่การงาน คิดอย่างไร ถึงไหนแล้ว เหมือนเป็นคุณพ่อมาตรวจความก้าวหน้าในชีวิตของลูก ที่ผ่านมาก็จะหลีกเลี่ยงโยกโย้ไปตามประสา แต่รอบนี้ไม่รู้มีอะไรมาดลใจ ก็คิดว่าจะไม่เฉไฉอีกต่อไป ไม่ว่าอาจารย์ประสงค์อย่างไร มีอะไรที่รับปากได้ก็รับปากไปแต่โดยดี พร้อมกับเรียนอาจารย์ไปว่า “จะทําให้ดีที่สุด ขออาจารย์อย่าได้กังวลค่ะ” อาจารย์ก็ให้พรและกําลังใจมาอีกหนึ่งยกใหญ่ฝากให้ช่วยกันดูแลคณะฯ คําสุดท้ายที่ได้ยินจากอาจารย์ก่อนวางสายในวันนั้น คือ “ซันนี่ทําได้อยู่แล้ว” ตอนวางสายก็คิดว่า อย่างน้อยวันนี้อาจารย์จะได้สบายใจ มันเหมือนเป็นบทสรุปของการสนทนาที่มีมายาวนานหลายปี ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร จะเจอปัญหาอุปสรรคใด เราก็ยังมีกําลังใจคนสําคัญ และไปขอคําปรึกษาจากอาจารย์ได้....หากแต่เวลาไม่เคยคอยใคร

วันที่ทราบข่าวการจากไปของอาจารย์ เสียงบทสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายลอยกลับมา ชัดเจนทุกประโยคและถ้อยคํา“ทําให้ดีที่สุด” เป็นสัญญาที่ต้องรักษาไว้ จากนี้ไปคงไม่มีคําถามยากๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความรักและหวังดีจากอาจารย์อีกต่อไปแต่ความทรงจําและความสํานึกในความเมตตาของอาจารย์จะอยู่กับเรา ตลอดไป

กราบลาอาจารย์ด้วยความรักและเคารพอย่างสูงค่ะ

ศาสตราจารย์ สพ.ญ.ดร. สันนิภา สุรทัตต์

Sanny

คำไว้อาลัยท่านอื่น